แน่นอนว่าขั้นตอนการเซ็นสัญญาบริษัทรับสร้างบ้านถือเป็นกระบวนการที่สำคัญที่สุด เพราะหลังจากทำข้อตกลงกันแล้วก็ถึงเวลาเริ่มต้นดำเนินการ ถึงแม้บางบริษัทอาจสามารถเปลี่ยนเงื่อนไขหรือยกเลิกสัญญาได้ภายหลัง แต่ก็ไม่ใช่ทุกที่ที่มี ดังนั้นเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดก่อนทำสัญญาเราจึงมีเช็กลิสต์ง่าย ๆ มาฝาก
ก่อนอื่นไปดูว่าสัญญาก่อสร้างมีอะไรบ้าง
สัญญาบริษัทรับสร้างบ้านหลัก ๆ มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 5 ประเภท ดังนี้
1. สัญญาจ้างก่อสร้างแบบเหมารวม
- ข้อดี สามารถตรวจสอบผลงานได้ง่าย
- ข้อเสีย ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงยาก
2. สัญญาจ้างแบบราคาต่อหน่วย
- ข้อดี เริ่มงานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องรู้ปริมาณงาน
- ข้อเสีย เราจะทราบค่าใช้จ่ายโดยรวมทั้งหมดก็ต่อเมื่อตกลงทำสัญญาเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
3. สัญญาจ้างแบบคิดค่าใช้จ่ายทั้งหมดบวกเงินเพิ่มพิเศษ
- ข้อดี ตัดสินใจทำสัญญาได้ทันที ไม่จำเป็นต้องระบุรายละเอียดอะไรมากมาย
- ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายอาจคลาดเคลื่อน
4. สัญญาจ้างออกแบบรวมก่อสร้าง
- ข้อดี ช่วยให้การก่อสร้างเสร็จตามกำหนด เวลาผิดพลาดมีผู้รับผิดชอบชัดเจน
- ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
5. สัญญาเหมาจ้างแบบเบ็ดเสร็จ
- ข้อดี ใช้ประโยชน์จากงานได้โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนก่อน
- ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงและหลายด้าน
เช็กลิสต์ก่อนทำสัญญาจ้าง
หากไม่อยากให้เกิดปัญหาต้องมานั่งแก้ไขภายหลัง แนะนำให้ลองเช็กลิสต์รายละเอียดในสัญญาบริษัทรับสร้างบ้านครบถ้วนก่อนตัดสินใจ ดังต่อไปนี้
1. คิดราคาเหมาะสมหรือไม่
หลายคนมักคิดว่าเลือกราคาถูกไว้ก่อนจะดีกับการดำเนินการมากกว่า เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่ต้องรับผิดชอบ จึงทำให้มองข้ามรายละเอียดในส่วนของคุณภาพงานไป ทั้งที่จริง ๆ แล้วควรตรวจสอบทั้งคุณภาพและราคาที่คิดมาว่าสมเหตุสมผลกันมากแค่ไหน ไม่ใช่ถูกหรือแพงเกินไป เช่น หากมีการแบ่งจ่ายเป็นงวด ค่างวดแต่ละงวดจะเฉลี่ยประมาณ 5 – 15% เป็นต้น
2. ระยะเวลาการก่อสร้าง
ในสัญญาต้องระบุอย่างชัดเจนว่าดำเนินการกี่วัน โดยจะเริ่มนับตั้งแต่วันต่อหรือเจาะเสาเข็มเรียบร้อยแล้ว โดยระยะเวลาส่วนใหญ่ควรเริ่มต้นภายใน 15 – 30 วัน
3. บัญชีแสดงปริมาณวัสดุ
โดยต้องระบุอย่างชัดเจนว่าใช้วัสดุก่อสร้างประเภทใด จำนวนหน่วยของวัสดุ คือ อะไรอย่างละเอียด เพื่อใช้เป็นข้อมูลคาดการณ์คร่าว ๆ ว่าค่าใช้จ่ายควรตกอยู่ที่เท่าไหร่
4. ขอบเขตการทำงาน
ต้องระบุชัดเจนว่าจะดำเนินการอะไร เมื่อไหร่ พร้อมทั้งระบุขนาดพื้นที่ในการรับผิดชอบ
5. แบบก่อสร้าง
ต้องมีรายละเอียดฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ อย่างครบครันและเป็นแบบที่สร้างความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้ว่าจ้างและผู้ก่อสร้าง
เคล็ดลับทำสัญญาจ้างอย่างไรให้เสี่ยงน้อยที่สุด
นอกเหนือจากการเช็กรายละเอียดในสัญญาอย่างชัดเจนแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่จำเป็นต้องรู้เพื่อเพิ่มความรอบคอบก่อนทำสัญญาจ้างบริษัทรับสร้างบ้าน ดังนี้
- ต้องเข้าใจรายละเอียดเรื่องการเปลี่ยนแบบ โดยหลัก ๆ มีข้อกำหนดว่าสามารถเปลี่ยนแปลงระยยะเวลาการก่อสร้างให้น้อยหรือมากขึ้นได้ แต่ทุกครั้งต้องมีหนังสือยืนยันเสมอ
- ขั้นตอนการตรวจงานต้องมีทั้งแบบไม่เป็นทางการ โดยไม่อ้างอิงกับราคาค่างวดการจ่ายเงินและตรวจแบบเป็นทางการ โดยอ้างอิงกับงวดการจ่ายเงินว่าเหมาะสมหรือไม่
- เลือกระยะเวลาประกันงานให้ดี หลัก ๆ จะมีให้เลือกอยู่ด้วยกัน 2 ช่วง คือ 1 – 2 ปี สำหรับความเสียหายทุกกรณีที่เกิดขึ้น และ 5 – 10 ปี ความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างอาคาร
- หากเราในฐานะผู้จ้างจ่ายค่าก่อสร้างล่าช้า บริษัทรับสร้างบ้านสามารถขอสิทธิ์ในการเรียกร้องความเสียหายได้
- อย่าลืมทำข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันความเสียหายต่อที่ดินบริเวณรอบข้างอย่างชัดเจน
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเช็กลิสต์ที่เรารวบรวมมาให้ในวันนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนที่กำลังสนใจอยากมองหาบริษัทรับสร้างบ้านสามารถตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ในสัญญาได้อย่างครบถ้วน ก่อนจะตัดสินใจเซ็นสัญญาและมั่นใจว่าบริษัทรับสร้างบ้านจะไม่เทงาน