ประสาทหูเสื่อม หรือโรคหูดับนั้น เป็นอีกหนึ่งภาวะสูญเสียการได้ยิน ซึ่งจะมีอาการที่หูสามารถรับรู้ถึงเสียงได้น้อยลงหรือไม่สามารถได้ยินอีกเลย สามารถเกิดกับหูข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ การได้ยินลดลงนั้นจะมีระดับการได้ยินที่ลดลงมากกว่า 30 เดซิเบล เป็นเวลานานกว่า 3 วัน เป็นปัญหาของสุขภาพร่างกายอีกปัญหาหนึ่งที่สามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก ซึ่งประสาทหูเสื่อมนั้น จะถูกแบ่งเป็น 2 ปีะเภท ได้แก่
- ประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน
ประสาทหูเสื่อเฉียบพลัน หรือ Sudden Sensor Neural Hearing Loss (SSNHL) คือการสูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหัน สามารถเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่นาทีหรือมากกว่า 72 ชั่วโมง ส่งผลให้ความไวในการได้ยินลดลงอย่างกะทันหันและมักส่งผลต่อหูข้างเดียว ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถได้ยินเสียงพูดปกติรวมถึงความถี่เสียงอื่นๆ ได้ ประสาทหูเสื่อเฉียบพลันนั้นจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและไม่คาดคิดเพราะไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า ในบางกรณีอาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยทั่วไปจะใช้การทดสอบวินิจฉัยร่วมกัน เช่น การสแกน MRI และการทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อช่วยระบุสาเหตุของการสูญเสียการได้ยินของระบบประสาทอย่างกะทันหัน การรักษาการสูญเสียการได้ยินของอาการประสาทหูเสื่อมเฉียบพลัน อาจมีการใช้ยาเพื่อลดการอักเสบ การให้สเตียรอยด์ทางหลอดเลือดดำหรือทางปาก และการผ่าตัดหากจำเป็นเพื่อซ่อมแซมเส้นประสาทหรือหลอดเลือดที่ได้รับผลกระทบรอบๆ
- ประสาทหูเสื่อมตามอายุ
ประสาทหูเสื่อมตามอายุ หรือ Presbycusis เป็นภาวะการสูญเสียการได้ยินที่เกี่ยวข้องกับอายุ ส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก และอาจเป็นเรื่องยากที่จะรับรู้ถึงอาการได้เนื่องจากปัญหาการได้ยินมักเกิดขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น การตรวจการได้ยินเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี เนื่องจากการสูญเสียการได้ยินเนื่องจากภาวะประสาทหูเสื่อมตามอายุ มักจะเกิดขึ้นถาวรและสามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ สัญญาณทั่วไปของการสูญเสียการได้ยินเนื่องจากประสาทหูเสื่อมตามอายุ ได้แก่ การพูดเสียงดังเกินไป มีปัญหาในการได้ยินบทสนทนาในห้องที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือเมื่อมีเสียงรบกวน และจำเป็นต้องขอให้ผู้อื่นพูดซ้ำบ่อยๆ หากเริ่มสัมผัสได้ถึงความผิดปกติเกี่ยวกับการสูญเสียการได้ยินเนื่องจากภาวะประสาทหูเสื่อมตามอายุ สิ่งสำคัญคือต้องให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยินตรวจโดยเร็วที่สุด
ประสาทหูเสื่อมทั้งสองประเภทสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเหมือนกัน ดังนั้น จึงควรรู้จักป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดประสาทหูเสื่อม เพื่อที่เราจะได้สามารถได้ยินเสียงของสิ่งต่างๆ รอบตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและยาวนาน และเมื่อรู้สึกถึงความผิดปกติไม่ควรมองข้ามและควรเข้ารับการตรวจและการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะไม่สามารถรักษาให้หายได้